วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ทำบุญสร้างกุศลกันเถอะ




ทำบุญสร้างกุศลกันเถอะคร๊าบบ




ขอเชิญร่วมทำบุญทำกุศลตามจิตศรัทธาของท่านทั้งหลายนะจ๊ะ เพื่ออานิสงฆ์แห่งผลบุญที่ท่านได้ทำจะได้เป็นเครื่องช่วยพยุงไม่ให้ท่านล้ม เวลาที่ท่านควรล้ม หรือหากล้มก็ไม่เจ็บมาก และยืนได้ไว เมื่อต้องยืน และเป็นสะพานทอดไปสู่เส้นทางแห่งพระนิพพาน ทั้งนี้ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ทำบุญนะคร๊าบ


1. โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยจะไถ่ชีวิตโค-กระบือ อย่างน้อยวันละ 9 ชีวิต เป็นเวลา 1 ปี เพื่อบริจาคโคและกระบือเข้าธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ชื่อบัญชี "โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศล 80 พรรษา"

ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยรัฐสภา เลขที่ 089-0-02136-8
ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงาน กพ เลขที่ 201-0-54321-9
ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ เลขที่ 001-7-87474-4
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ เลขที่ 020-2-62188-0
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักพระรามที่ 3 เลขที่ 777-1-42770-5
ธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง เลขที่ 062-2-38889-8


2. โรงพยาบาลวัดพระบาทน้ำพุ ลพบุรี หลวงพ่ออลงกต ชื่อบัญชี "กองทุนอาทรประชานาถ" หลวงพ่อต้องออกมาช่วยบิณฑบาตรแทบทุกวัน เพื่อหาทุนไปช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์

ธนาคารนครหลวงไทย สาขาลพบุรี เลขที่ 340-2-14976-0
ธนาคารกรุงเทพ สาขาลพบุรี เลขที่ 289-0-84697-1
ธนาคารทหารไทย สาขาลพบุรี เลขที่ 304-2-41277-9
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลพบุรี เลขที่ 579-2-33730-7
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาลพบุรี เลขที่ 111-1-47300-7
ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุรสงคราม เลขที่ 174-2-39000-0

3. สภากาชาดไทย บัญชี "สภากาชาดไทย สำนักงานจัดหารายได้" สีข้อความ

ธนาคารกรุงไทย สาขาสุรวงศ์ เลขที่ 023-1-41177-4
ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เลขที่ 101-0-11980-6
ธนาคารทหารไทย สาขาคลองเตย เลขที่ 015-2-43046-8
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่ 045-2-48899-3
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาศาลาแดง เลขที่ 103-1-32323-8
ธนาคารกสิกรไทย สาขาสีลม เลขที่ 001-2-25888-9
ธนาคารนครหลวงไทย สาขาธนิยะ เลขที่ 053-2-09275-6
ธนาคารไทยธนาคาร สาขาย่อยสิลม เลขที่ 045-2-04000-4


4. มูลนิธิชัยพัฒนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งมูลนิธินี้ขึ้น โดยทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประชาชน ในกรณีที่กฎระเบียบหรืองบประมาณราชการติดขัดหรือถูกจำกัดทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ทันที การที่มูลนิธิชัยพัฒนาเข้ามาดำเนินการ จะส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยแท้จริง รวดเร็วฉับพลันต่อสถานการณ์โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้น

"... ชัยชนะของประเทศนี้ โดยงานของมูลนิธิชัยพัฒนานั้นก็คือ ความสงบ... เป็นเมืองไทยที่มีความเจริญก้าวหน้า จนเป็นชัยชนะของการพัฒนาตามที่ได้ตั้งชื่อ มูลนิธิชัยพัฒนา ชัยของการพัฒนานี้มีจุดประสงค์คือ ความสงบ ความเจริญ ความอยู่ดีกินดี..."

(พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 4 ธันวาคม 2537)

บริจาคสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา ชื่อบัญชี "มูลนิธิชัยพัฒนา"

ธนาคารทหารไทย สาขาสนามเสือป่า เลขที่ 046-2-40277-7
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยจิตรลดา เลขที่ 067-2-00011-9


5. หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ วัดชลประทานรังสฤษฎ์ นนทบุรี หลวงพ่อกำลังก่อสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมของคณะสงฆ์ทั่วโลก โดยจะเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วโลก ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา "มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย" ท่านบอกว่าใช้งบในการก่อสร้างประมาณ 120 ล้าน แต่ตอนนี้ มีประมาณ 50 ล้าน ท่านบอกว่าจะทำเป็นงานสุดท้าย จะตายก็ไม่เสียดายแล้ว หากใครอยากร่วมทำบุญสร้างสถานที่ดังกล่าว สามารถทำบุญได้ โดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

บัญชี "พระพรหม มังคลาจารย์" ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากเกร็ด เลขที่ 142-2-15767-9


6.วัดโบสถ์วรดิษฐ์ เลขที่ 210/ ค ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก อ่างทอง 14130 เบอร์โทร 035-661134 ! มือถือ 086-1345003 แฟกซ์ 035-623356 เลขบัญชีวัดโบสถ์วรดิษฐ์ กสิกรไทยสาขาป่าโมก ออมทรัพย์ 1822-113-644 พระครูวุฒิธรรมาทร เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ให้มีเสื้อผ้า อาหารไว้ใช้











"ของเหลือจากคนเมืองอันมีจะกิน เป็นสิ่งมีค่าเหลือหลายสำหรับเด็กที่ไม่เคยได้ใช้ "เงิน" แม้แต่บาทเดียว . . ." คำพูดนี้กลั่นออกมาจากปากของ "พระครูวุฒิธรรมาทร" เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์


ในขณะที่ทุกคนเข้าวัดเพื่อทำบุญหรือหาที่พึ่งทางใจ แต่ ณ วัดป่าโมก วัดเล็กๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก กลับเป็นสถานที่ชุบเลี้ยงเด็กอีกหลายร้อยชีวิต






พวกเขาคิดว่า "วัด" คือบ้านที่ให้ชีวิตพวกเขา ให้แหล่งพักพิงอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่คนไร้ญาติ ขาดคนเหลียวแล และคนจนเช่นพวกเขาจะได้รับ




หลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ เล่าถึงความเป็นมาของวัดว่า เมื่อประมาณ 30 ปี ที่แล้ว พวกทหารพรานนำเด็กกว่า 30 คนมาฝากให้ท่านเจ้าอาวาสรูปก่อนดูแล ส่งเงินให้เดือนละ 500 บาท

เด็กๆ ที่นำมาฝากส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า เพราะพ่อแม่เป็นพวกคอมมิวนิวส์ หลังพ่อแม่ถูกฆ่า ถูกกวาดล้างก็มาขอพึ่งพาอาศัยใบบุญวัดเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด


ต่อมาชาวเขาทางภาคเหนือที่มีฐานะยากจนรู้เรื่องก็ส่งลูกๆ มาให้ทางวัดดูแลอีก เขาบอกว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าอดตายอยู่บนเขา และก็มีมาอีกเรื่อยๆ เกือบทุกจังหวัด







จนถึงปัจจุบันก็กลายเป็นกว่า 400 คนแล้ว ก็ต้องดูแลกันไป จำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง ดื้อบ้างซนบ้าง แต่อาตมาก็ดูแล ไม่ให้ทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะกันจะไม่ถามเลยว่าใครผิดใครถูก จะตีทั้งคู่ เด็กๆ เขาก็ซนตามประสาเด็กๆ" หลวงพ่อกล่าว พร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่แฝงไว้ซึ่งความเมตตาต่อเด็กๆ

พร้อมกันนี้ท่านยังบอกอีกว่า ทางวัดก็มีโรงเรียนให้เด็กๆ ได้เรียนหนังสือ เป็นโรงเรียนประจำแต่ก็เป็นไปตามอัตภาพที่จะทำได้ มีตั้งแต่ชั้นระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่เด็กเป็นร้อยคนดูแลเด็กก็ต้องไปบิณฑบาตรข้าวของเครื่องเรียนต่างๆ เพื่อนำมาให้เด็กๆ เขาใช้



ส่วนครูที่สอนหนังสืออยู่ที่นี่ก็เป็นระบบกึ่งข้าราชการ มีเงินเดือนมีสวัสดิการให้จากภาครัฐ แต่เงินเดือนจะไม่ขึ้น ที่เขาเสียสละมาอยู่กับเด็กๆ ก็เพราะรัก




"ทุกวันนี้หลวงพ่อไม่เคยมีปัญหาอะไร มีแต่ทุกข์ ขนาดเป็นพระก็ยังมีทุกข์ ทุกข์ที่ว่ากลัวจะมีไม่พอเลี้ยงเขา จะอยู่กันไปตลอดได้อย่างไร บางคนเรียนจบก็กลับมาช่วย บางคนก็ไม่กล้ามา เขาคงละอายใจตัวเองที่ยังช่วยวัดไม่ได้ เพราะในแต่ละเดือนภาระค่าใช้จ่ายของทางวัด เฉพาะค่าไฟก็ไม่น้อยไปกว่า 3 หมื่นบาท รายได้ก็มาจากการบริจาค ส่วนใหญ่ก็ต้องไปขอบิณฑบาตรเอาปัจจัยบ้าง และของที่บริจาคจะเป็นจำพวกข้าวสารอาหารแห้ง แต่บางทีข้าวสารไม่พอ วัดก็ไปขอหยิบยืมมาจากโรงสี พอมีผ้าป่ากฐินมาวัดก็เอาเงินไปใช้เขา ถ้าไม่มีหรือไม่พอเขาก็ไม่ทวงทางวัด ก็ถือว่าเป็นการทำบุญไป" หลวงพ่อ กล่าว


... ในขณะที่หลายคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง เรียนบ้างเล่นบ้างตามประสา ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตามสมัยนิยม แต่ในวัดเล็กๆ แห่งนี้ยังมีเด็กอีกหลายร้อยชีวิตที่ไม่เคยได้สัมผัส "เงิน" ที่กลายเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต หรือไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆ ดีๆ สวมใส่ "ของเก่ามันเก่าที่บ้าน


แต่กับเด็กๆ ที่เขาไร้โอกาสมันก็เป็นของใหม่สำหรับเขา แต่ส่วนใหญ่เด็กๆ เค้าก็ดีใจ เราเคยบอกกับเด็กๆ ว่าถ้าไม่มีคนช่วยก็ต้องต่างคนต่างไป เพราะญาติโยมที่มาก็ไม่เยอะมาก แต่แค่เงินทำบุญหาได้เดือนชนเดือนก็พอใจแล้ว ไม่ได้หวังอะไรมาก ส่วนใหญ่คนที่มาบริจาคเค้ามาเอง มาแบบปากต่อปาก วัดไม่เคยออกไปโฆษณาทางไหน ของบริจาคอยากจะบริจาคเสื้อผ้า ของเล่น อะไรก็เอามาบริจาคได้ อาหารแห้ง ถ้าเหลือใช้ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน ก็เอามาได้" เรียกได้ว่า ทุกคำพูด ทุกลมหายใจเข้าออกของหลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร จะคิดคำนึงถึงปากท้องของชีวิตน้อยๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอยู่เสมอ



"การกินเป็นสิ่งสำคัญต้องมาก่อนอย่างอื่น เด็กๆ ต้องกินแล้วค่อยร่ำเรียน ยังไงก็ต้องให้เค้ามีกิน ถึงจะไม่ดีตาม แต่ก็ต้องได้กิน ทุกวันนี้กลัวอย่างเดียวคือวันข้างหน้าจะมีไม่พอให้เค้ากินเค้าใช้" หลวงพ่อ กล่าวความทุกข์ที่เป็นกังวลใจ พร้อมๆ กับฝากถึงคนที่มีโอกาสว่า "กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงมาได้ กว่าจะเติบโตมาเป็นคนได้ มันสุดแสนจะยากลำบาก ยังมีชีวิตก็ยังมีโอกาส อย่าไปคิดสั้นชีวิตมันยังต้องต่อสู้กันต่อไป

ตอนนี้ข้าวสารและอาหารเป็นสิ่งที่ขาดแคลนสำหรับเด็กๆ หากท่านใดบริจาคก็ขออนุโมทนาบุญด้วยคร๊าบ




7. โรงเรียนปริยัติธรรม (ไม่อ่านแต่แค่ส่งต่อก็ยังดีนะ เป็นกุศล)

จาก Forward mail..


เมื่อคืนประมาณ 1-2 ทุ่ม ข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์จากพระอาจารย์ที่นับถือท่านหนึ่ง คือ พระมหาแผน ท่านโทรมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลมาก ได้ความว่า


ตอนนี้สามเณรที่ท่านดูแลอยู่ 90 รูป กำลังจะลำบาก เพราะอาหารที่มีอยู่กำลังจะหมดไป ของใหม่ก็ไม่มีมาเพราะอยู่ห่างไกลจากชุมชน ข้าพเจ้าเคยค่อนท่านหลายครั้งว่า ทำไมต้องเอาลูกเค้ามาเลี้ยง ท่านก็ตอบเหมือนๆกันทุกครั้งไปว่า เด็กๆ พวกนี้เป็นคนยากจน พ่อไปทาง แม่ไปทาง เป็นโจรไปก็มีท่านว่าฉันเอาเค้ามาเลี้ยงอย่างน้อยๆ ก็สั่งสอนเค้าให้เป็นคนดีในสังคมได้ เหลือท่าเด็กมันมีบุญ วาสนา ก็จะได้เป็นเนื้อนาบุญ สืบต่อพระศาสนาต่อไป ข้าพเจ้าก็จนแต้มอีกตามเคย



มีอยู่ครั้งหนึ่งพระอาจารย์ท่าน เล่าให้ฟังว่า ท่านได้เรียก ประชุมเณรเพราะท่านหมดกำลังที่จะดูแลเณรน้อยทั้งหลายต่อไป ท่านทั้งหลาย ทราบหรือไม่ว่าเกิด อะไรขึ้น?



สามเณรน้อยพร้อมใจกันกราบแทบเท้าท่านแล้วพูดว่า หลวงพ่อกินเกลือพวกผมก็กินเกลือ แต่ถ้าท่านอด พวกผมก็ยอมอด



ข้าพเจ้าฟังแล้วน้ำตาไหล มีเด็กจำนวนหนึ่งข้าพเจ้าได้เป็นเจ้าภาพ บวชให้ จำได้ว่า มีเด็กอยู่คนหนึ่ง อายุ 10-11 ขวบ ไม่ได้แจ้งข้าพเจ้ามาก่อนว่าต้องการบวช เธออุตส่าห์ โกนหัวมาเสร็จสรรพ มาแต่เช้าตรู่ เธอหลบอยู่ใต้ถุนศาลาพอเห็นข้าพเจ้าก็ตรงมากราบเท้า ข้าพเจ้า แล้วบอกว่า คุณน้าผมอยากเป็นคนดี คุณน้าช่วยผม ด้วยในที่สุด ก็เป็นเจ้าภาพบวชให้เธอ


ข้าพเจ้ามานั่งคิดๆว่าถ้าอาหารหมดทีก็หาให้ที มันจะเป็นเหมือนเบี้ยต่อไส้ เลยอยากจะตั้งกองทุนเพื่อ อาหารพระเณรของ จะได้เป็นทุนสำรองต่อไป



วันนี้ข้าพเจ้าได้ให้พี่สาวไปเปิดบัญชีไว้และได้ กราบเรียนท่านพระอาจารย์ ท่านดีใจใหญ่และได้ซื้อ ข้าวสาร 50 ถุง น้ำปลา 2ลัง ขนมปัง 6ปีบ น้ำ แดง 1 ลัง น้ำ มัน 1 ลัง น้ำตาล 10ถุง เกลือ 10 ถุง มาม่า 4 กล่อง ไว้ใช้ก่อนชั่วคราว



จึงขอเรียนเชิญทุกท่าน ผู้ใจบุญทั้งหลายมาช่วยกันก่อตั้งกองทุนในครั้งนี้ เพื่อสืบต่อ อายุพระสงฆ์ สามเณร และ พระพุทธศาสนา




ท้ายสุดนี้ ขอกราบอารธนาบารมีพระพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ขอให้ทุกท่านผู้เป็นกำลังใหญ่ในการสืบทอดอายุบวรพระพุทธสาสนา จงมีความสุข สวัสดีตลอดตราบเท่า เข้าสู่ นิพพานเถิด สาธุ สาธุ สาธุ' สิ่งของที่รับบริจาคสงเคราะห์ พระภิกษุสามเณร ( 081-940 8541 พระมหาแผน )


1. ข้าวสาร อาหารแห้ง เช่น กะปิ น้ำปลา ซอส เครื่อง แกง เครื่องปรุงแต ่งรสอาหาร ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น

2. อุปกรณ์ การศึกษา เช่น สมุด ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด เป็นต้น

3. หนังสือเรียน นักธรรม ตรี โท เอก และสายสามัญ


โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสายสามัญศึกษา**
สำนักสงฆ์ บ่อเงินบ่อทอง
ต. หนองแหนอ.พนมสาร คาม จ.ฉะเชิงเทรา**

หมายเลขบัญชี** 203-0-06304-5**
ธ. กรุงไทย สาขา พนมสารคาม ** ชื่อบัญชี ร.ร. ปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง***


อาตมาภาพ ขอบิณฑบาต เป็นอาหารแห้ง เช่น ข้าวสาร เครื่องปรุงรสแกงต่างๆตลอดถึง ผ ัก ปลา หมู ไก่ เป็นต้น เพราะเมื่อโรงเรียนย้ายที่ตั้งใหม่ ระยะการเดินทางไกลถ้าเป็นอาหารปรุง เสร็จแล้ว จะไม่ทันฉันเพล และอาหารแห้ง สามารถเก็บไว้จัดภัตาหารเพลถวายภิกษุสามเณรในวันต่อ ไปได้ เพราะสถานที่ ที่ย้ายโรงเรียนไป เป็นทุ่งนาห่าง ไกลตลาด ที่จะจัดซื้อภัตตาหารถวายมื้อเพลได้ในปัจุบัน มีพระภิกษุ สามเณรกว่า 90รูป โยมที่ถวายอาหารแห้งได้ มีโอกาสทำบุญกับ พระเณร เป็นจำนวนมาก


*******************************************************************************************
บุญกุศลใดที่เกิดจากข้าพเจ้าในการประชาสัมพันธ์นี้ ทุกนาที ทุกวินาที ขอจงให้ข้าพเจ้า พร้อมครอบครัว และผู้ใจบุญทุกท่าน สว่างไสวด้วย ลาภยศ สรรเสริญ ปัญญาและบุญบารมี อย่างท่วมท้น เจ้ากรรม นายเวร อโหสิกรรมให้ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง และขอยกบุญกุศลนี้แด่นายเวรที่มาเบียดเบียนข้าพเจ้า



http://www.simihoro.blogspot.com/
http://www.mytour.tvithailand.com/
E-mail: simiho406@gmail.com
Tel: 086-1840299

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

คุณรู้ไหมว่า...ปล่อยปลาแต่ละชนิดมีความหมายอย่างไร

ปกติชอบปล่อยปลาอยู่แล้ว แต่พอดีอ่านในเน็ตทำให้ทราบถึงการทำบุญปล่อยปลาต่าง ๆ เพิ่มขึ้น

เลยนำมาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ


เวลาที่คุณทำบุญโดยการปล่อยสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์น้ำ

ประเภทปลาซึ่งมีอยู่หลายชนิดนั้นซึ่งแต่ละชนิดมีความหมาย

ในการทำบุญแตกต่างกันไป เรามาดูกันว่า ปลาแต่ละชนิดและสัตว์น้ำ

บางชนิด มีความหมายในการทำบุญด้วยการปล่อยอย่างไร เพื่ออะไรบ้าง

บางคนอาจปล่อยสัตว์เหล่านี้ตามจำนวนมากกว่าอายุเรา 1 ปี

หรือบางคนอาจยึดหลักตามกำลังวันเกิดของเราเอง


ความหมายของการปล่อยสัตว์

ปลาไหล หมายถึง การเงิน การงาน การเรียนจะราบรื่น

ปลาหมอ หมายถึง เพื่อสุขภาพ

ปลาบู่ หมายถึง ทดแทนผู้มีพระคุณ

ปลาดุก หมายถึง ศัตรูคู่แข่งแพ้พ่าย

ปลานิล หมายถึง ทรัพย์สินเพิ่มพูน

ปลาช่อน หมายถึง ช้อนเงินทอง สิ่งที่ซ่อนเร้นจะได้พบ

ปลาทับทิม หมายถึง ทำอะไรราบรื่น

ปลาสวาย หมายถึง เงินทองคล่องตัว

ปลาขาว หมายถึง ปลานำโชค

ปลาจารเม็ด หมายถึง จะได้เงินเต้มเม็ดเต็มหน่วย

ปลาใน หมายถึง ได้เป็นเจ้าคนนายคน

ปลาดุกเผือก หมายถึง ปลามงคล

ปลาดำราหู หมายถึง สะเดาะเคราะห์

ปล่อยกบ หมายถึง ขออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร

หอยขม หมายถึง ทิ้งความขมขื่น จะร่มเย็นเป็นสุข

หอยโข่ง หมายถึง หนทางโล่งเป็นผู้นำ ข้าทาสบริวารมาก

ตะพาบ หมายถึง ภัยคุกคามต่างๆจะราบ อัมพาตจะดีขึ้น อายุมั่นขวัญยืน


การปล่อยสัตว์ ตามกำลังวัน

วันอาทิตย์ ปล่อยจำนวน 6-9 ชีวิต

วันจันทร์ ปล่อยจำนวน 15 ชีวิต

วันอังคาร ปล่อยจำนวน 8 ชีวิต

วันพุธ ปล่อยจำนวน 17 ชีวิต

วันพฤหัสบดี ปล่อยจำนวน 12 ชีวิต

วันศุกร์ ปล่อยจำนวน 21 ชีวิต

วันเสาร์ ปล่อยจำนวน 10 ชีวิต


คำอธิษฐาน การปล่อยสัตว์

ข้าพเจ้าชื่อ.........นามสกุล เกิดวันที่.....เดือน.พ.ศ......อายุ....ปี
ได้ปล่อยสัตว์...............จำนวน......ตัว
ปล่อยเพื่อให้เป็นที่พึ่งแก่ตนเอง เพื่ออุทิศส่วนกุสลให้แก่ศัตรู และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ตัวที่เป็นที่พึ่ง ขอให้นำความสุขและโชคลาภมาให้ข้าพเจ้า
ตัวที่ให้กับศัตรูและเจ้ากรรมนายเวร จงนำเอาสรรพทุกข์ สรรพโศก


สรรพโรค สรรพภัย สรรพเคราะห์ เสนียดออกไปจากข้าพเจ้า


ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้พระแม่ธรณี พระแม่คงคา, เทพเทวา เจ้าที่เจ้าทาง,หลวงพ่อโต,และพญานาคราช
จงป็นสักขีพยานรับทราบกุศลเจตนาของข้าพเจ้า และคุ้มครองชีวิตสัตว์ให้ปลอดภัยจนสิ้นอายุขัย
ด้วยอำนาจของกุศลผลบุญนี้ จงสะเดาะเคราะห์ร้ายของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นดี
มีความร่มเย็นเป็นสุข ประสพความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนา
มีความเจริญก้าวหน้า มีชีวิตที่สดชื่น มีความสุขความเจริญ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ.

เคล็ดมงคลเสริมส่งดวงชะตา

อยากมั่งคั่งร่ำรวย
ข้อควรปฏิบัติ
1. หาเวลาไปบูชาพระสีวลี พระสังกัจจายน์
2. ทำบุญร่วมสร้างโบสถ์ และศาลาการเปรียญ
3. สละทรัพย์และสิ่งของให้ผู้ตกทุกข์ได้ยาก
4. ทำบุญทอดกฐิน ทอดผ้าป่า
5. ถือศีลห้า เว้นอบายมุขต่างๆ
6. ยินดีช่วยกิจการของศาสนาอย่างแข็งขันด้วยจิตบริสุทธิ์

อยากอุดมลาภยศ มีอำนาจบารมี
ข้อควรปฏิบัติ
1. ทำบุญร่วมสร้างพระประธาน
2. ทำบุญเป็นเจ้าภาพงานบวช
3. บริจาคทานแก่ผู้ยากไร้ สนับสนุนอุ้มชูคนดี
4. พิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่ายเป็นทาน
5. ถือศีลแปดโดยเคร่งครัด
6. หมั่นสวดพระคาถาชินบัญชร

อยากมีงานที่ดีทำ อยากเรียนต่อ
ข้อควรปฏิบัติ
1. ไปกราบไหว้พระพรหม และถวายตุ๊กตาช้างกับพวงมาลัย
2. ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม
3. ถวายผ้าไตรจีวรแด่พระสงฆ์
4. ไปไหว้พระ ปิดทองคำเปลว 9 แผ่น
5. ซื้อเทียน 1 ห่อไปถวายวัด และเติมน้ำมันตะเกียงให้ชีวิตสว่างไสว

อยากดวงดี แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ
ข้อควรปฏิบัติ
1. ทำบุญตักบาตรพระ และถวายสังฆทาน
2. ผูกดวงชะตา เขียนชื่อ และนามสกุลไว้ใต้ดวงชะตา แล้วนำแผ่นกระดาษแผ่นนั้นไปไว้ใต้ฐานองค์พระพุทธรูป
3. ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาทุกเดือนเป็นประจำ

อยากมีรูปงาม มีเสน่ห์
ข้อควรปฏิบัติ
1. ทำบุญไว้พระโดยถวายของหอม เช่น ธูปหอม ดอกไม้หอม น้ำอบ ทองคำเปลว
2. ถวายผ้าบังสุกุลแด่พระสงฆ์ปีละ 2 ครั้ง
3. อาสาอ่านหนังสือลงเทปให้คนตาบอดฟังที่มูลนิธิคนตาบอด
4. เป็นคนประพฤติดี ปฏิบัติงามทั้งกาย วาจา ใจ

อยากมีหลักฐานมั่นคง ไม่ต้องโยกย้ายบ่อย
ข้อควรปฏิบัติ
1. ทำบุญบริจาคเงินร่วมสร้างเสาหงส์หรือเจดีย์ปูน หรือร่วมซื้อกระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์วิหาร
2. ไปกราบไหว้ขอพรที่ศาลหลักเมือง
3. หมั่นทำบุญตักบาตรทุกสัปดาห์

อยากได้คู่ดี สมหวังในความรัก
ข้อควรปฏิบัติ
1. ถวายแจกันคู่ เทียนคู่
2. ช่วยให้ผู้อื่นสมรัก ไม่ทำให้คู่ใครเขาแตกแยกหรือพลัดพรากจากกัน การช่วยให้คู่รักได้สมรักนั้นถือเป็นอานิสงส์แรงมาก
3.ตั้งตนอยู่ในศีลธรรม ประพฤติดี ปฏิบัติงามทั้งกาย วาจา ใจ

อยากโดดเด่นมีชื่อเสียง
ข้อควรปฏิบัติ
1. ถวายเทียนพรรษา
2. ทำบุญร่วมสร้างหอระฆัง
3. ถวายตะเกียง โคมไฟ หลอดไฟให้วัด
4. ถวายธูปหอม เทียน 1 สำรับ ทองคำเปลว น้ำอบ และดอกไม้ทุกครั้งเมื่อไปกราบไหว้บูชาพระ

อยากทำมาค้าขายรุ่งเรือง ธุรกิจก้าวหน้า
ข้อควรปฏิบัติ
1. ไปกราบไหว้ไฉ่เซ่งเอี้ยที่ศาลเจ้าพ่อเสือ
2. บูชาพระสีวลี พระสังกัจจายน์
3. หมั่นทำบุญบริจาคทาน
4. ถือคุณธรรมนำการค้า ยึดถือความซื่อตรง

อยากมีพลังจิตพลังใจให้เข้มแข็ง
ข้อควรปฏิบัติ
1. ไปไหว้พระ ปิดทองคำที่องค์พระประมาณ 9 แผ่น
2. ทำบุญซื้อโลงศพตามมูลนิธิต่างๆ
3. ถือศีล 8 โดยเคร่งครัดเป็นเวลา 7 วัน
4. หมั่นสวดพระคาถาชินบัญชร

อยากอายุมั่นขวัญยืน มีสุขภาพดี
ข้อควรปฏิบัติ
1. หมั่นปล่อยเต่าเป็นประจำทุกเดือน
2. บริจาคเงินทำบุญที่โรงพยายาลสงฆ์
3. ถวายยาสามัญประจำบ้านในชุดสังฆทานด้วยเสมอ
4. ทำบุญซื้อโลงศพตามมูลนิธิต่างๆ
5. ทำทานกับสัตว์จรจัดอนาถา ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น

อยากมีปัญญาดี มีวิชาความรู้ความสามารถ
ข้อควรปฏิบัติ
1. บริจาคหนังสือแก่เด็กยากไร้
2. ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจกเป็นทาน
3. หมั่นไปฟังเทศน์ที่วัดในวันพระ
4. ฝึกนั่งสมาธิ
5. เล่าเรื่องบุญบาปให้ผู้อื่นฟังเป็นนิตย์
6. ชักจูงให้คำทำความดี

อยากมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์
ข้อควรปฏิบัติ
1. ซื้อข้าวสาร 1 กระสอบถวายวัดทุก 3 เดือน และนำไปให้สถานสงเคราะห์หรือตามมูลนิธิต่างๆ หรือศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเวลานั้นๆ
2. สละทรัพย์และข้าวของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่ผู้ยากไร้อนาถาเป็นประจำ
3. หมั่นทำบุญตักบาตรพระสงฆ์

ดังปรากฏในพระธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าว่า การสะสมบุญและหมั่นให้ทานเป็นนิตย์ ย่อมช่วยลดบาปและแก้กรรมชั่วได้ หากตั้งอยู่ในจิตเจตนาที่บริสุทธิ์

ส่วน การทำทาน คือแรงหนุนสำคัญที่ทำให้เกิดวาสนาบารมีได้อย่างแม่นมั่น โดยให้ถือความยินดีในการให้ทานและให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลคนทุกข์ยากเป็นสำคัญ

การทำสมาธิสวดมนต์ภาวนาก็ทำให้เกิดสติกระจ่าง จะคิดจัดการดูแลแก้ไขชีวิตของตนได้อย่างเรียบร้อย อันจะนำไปสู่ความสุขความรุ่งเรืองได้

การให้ทานผู้อื่นเป็นนิตย์ ย่อมนำมาซึ่งลาภยศสรรเสริญจากผู้คนทั่วไป ตัวเราย่อมบังเกิดบารมี ดวงชะตาที่ดีด้วยกระทำของตัวเองโดยแท้

(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน)